เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา บริษัท ป่าสาละ จำกัด (Sal Forest - ป่าสาละ) และทีมผู้จัดทำโครงการ ได้จัดงานประชุมนำเสนอผลการศึกษาของโครงการ "การจัดการกับงบประมาณโฆษณาประชาสัมพันธ์จากภาครัฐและเอกชนขององค์กรสื่อ" ในงานมีการนำเสนอข้อค้นพบจากแนวปฏิบัติขององค์กรสื่อในการนำเสนอเนื้อหา การจัดการต่อเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ และยังมีการพูดถึงแนวทางการใช้งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของทั้งภาครัฐและเอกชนไว้อย่างน่าสนใจ (สามารถคลิกเพื่อดูผลลัพธ์การศึกษาได้ที่นี่)
อีกส่วนที่สำคัญของโครงการนี้คือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าทางสังคม การมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย และความโปร่งใสในการทำงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1️⃣ การสร้างคุณค่าทางสังคมในเรื่องความโปร่งใสในงานข่าวให้เกิดขึ้นเป็นฉันทามติ
- สร้างความรู้ความเข้าใจต่อความสําคัญของการมีแนวปฏิบัติในการใช้งบประชาสัมพันธ์ที่โปร่งใส
- ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และองค์กรสื่อร่วมกันกําหนด
มาตรฐาน หรือแนวปฏิบัติที่โปร่งใสและมีจริยธรรมเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมสื่อ และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
- สร้างดัชนีชี้วัดในเชิงคุณภาพของเนื้อหาที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้สื่อที่มีคุณภาพยังสามารถดําเนินธุรกิจอยู่รอดได้
2️⃣ การยกระดับแนวทางการดําเนินงานขององค์กรสื่อเพื่อให้เกิดความเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น
- แยกกองบรรณาธิการข่าวออกจากกองบรรณาธิการเนื้อหาเชิงโฆษณาประชาสัมพันธ์
- พัฒนารูปแบบการหารายได้ให้หลากหลาย เพื่อคานอํานาจจากงบโฆษณาจากภาครัฐและเอกชน นับเป็นการเพิ่มอิสรภาพของสื่อและเพิ่มอำนาจการต่อรอง
3️⃣ การยกระดับความโปร่งใสในการใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ
- ปรับปรุงอัตรางบประมาณโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของสํานักงบประมาณ ให้ครอบคลุมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อดิจิทัล เช่น การจ้าง influencer
- กรมประชาสัมพันธ์จัดทําแนวปฏิบัติสําหรับหน่วยงานภาครัฐเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการโฆษณาประชาสัมพันธ์และจัดเก็บข้อมูล
- เปิดเผยสัญญาจ้างโฆษณาประชาสัมพันธ์มูลค่าสูงให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก
- รัฐบาลควรเพิ่มตัวแทนภาคประชาชน และปรับบทบาทของกรมประชาสัมพันธ์เพื่อลดความซํ้าซ้อน
- รัฐบาลควรกําหนดหลักเกณฑ์ว่าการโฆษณาจะต้องไม่เป็นการมุ่งหมายเพื่อสร้างความนิยมทางการเมือง เพื่อเป็นการปิดช่องโหว่การใช้งบประมาณเพื่อโฆษณาส่วนตัว
กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทยในฐานะผู้ให้การสนับสนุนโครงการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะทั้ง 3 นี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อแนวปฏิบัติต่าง ๆ ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรสื่อ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนให้ข้อเสนอแนะเหล่านี้เป็นจริงขึ้นได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทุกคน